วิธีทำบัตรสะสมคะแนนให้ปัง
การทำบัตรสะสมคะแนน หรือบัตรสะสมแต้ม เป็นกิจกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบความภักดีของกลุ่มเป้าหมาย (Loyalty Programs) ผ่านการสะสมคะแนนที่ได้จากการซื้อสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลตอบแทนความภักดีในรูปแบบของรางวัลหรือส่วนลดที่แจ้งไว้ล่วงหน้า นี่จึงเป็นวิธีช่วยธุรกิจสร้างยอดขายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนประสิทธิภาพ
ของสินค้าและบริการผ่านปริมาณการซื้อซ้ำ การใช้บริการซ้ำ และจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น
บัตรสะสมคะแนนแท้จริงคืออะไร?
คือ วิธีการของธุรกิจ, ร้านค้าเพื่อใช้ดึงดูดลูกค้าให้เกิดการซื้อหรือใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
คือ วิธีของธุรกิจเพื่อสะท้อนความพึงพอใจ และความตั้งใจในการซื้อหรือใช้บริการของลูกค้า
คือ คำสัญญาของธุรกิจ, ร้านค้าที่จะให้บริการหรือผลิตสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เตรียมพร้อมก่อนทำบัตรสะสมคะแนน
- ร้านค้าควรตรวจสอบให้มั่นใจว่า สินค้าและบริการ ได้รับการปรับปรุง พัฒนา และพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ
- กำชับให้พนักงานทุกส่วนให้เน้นย้ำลูกค้าทุกครั้งในตอนชำระค่าบริการ ให้พวกเขารักษาสิทธิ์ หรือแจ้งสิทธิให้ทราบ (อันนี้สำคัญมาก) ทุกครั้งที่ใช้บริการหรือซื้อสินค้า
- ไม่ควรทำบัตรสะสมคะแนนในตอนเริ่มต้นธุรกิจ เพราะนั่นยังจะไม่ใช่ลูกค้าตัวจริงของคุณ
- บัตรสะสมคะแนนไม่ช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบถล่มทลาย แต่เป็นกิจกรรมเพื่อช่วยให้ยอดขายมีความสม่ำเสมอ
- บัตรสะสมคะแนนควรกำหนดระยะเวลาและของรางวัลที่จะได้รับให้ชัดเจน
- เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าหรือบริการในระยะเวลาที่กำหนด
- เพื่อนำผลในการทำงานมาปรับใช้กับกิจกรรมในครั้งถัดไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำอย่างไรให้ลูกค้าสะสมแต้มจนจบโครงการ?
มอบของรางวัลที่คู่ควร
คุณควรพิจารณาเลือกของรางวัลที่ทุกคนต้องอยากได้ ไม่ใช่สิ่งที่ร้านพอจะให้ได้ ยกตัวอย่าง ธุรกิจของคุณเป็นร้านกาแฟ ขายประมาณแก้วละ 45 บาท ถ้าสะสมแต้มครบ 9 แก้ว ฟรี 1 แก้ว ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ใช้แนวทางนี้ ดังนั้น ลองปรับเปลี่ยนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ลูกค้าของคุณมีความรู้สึกจำเจ อาทิ
- ย่นระยะการสะสมแต้ม เช่น สะสมครบ 6 แก้ว ฟรี 1 แก้ว
- จำกัดปริมาณของรางวัล เช่น สะสมครบ 10 แก้ว ภายใน 14 วัน แถม 2 แก้ว
- เปลี่ยนของแถมเป็นแถมเมนูใหม่ หรือสินค้าใหม่ให้ลูกค้าได้ทดลอง
คุณต้องเข้าใจว่า การสะสมแต้มหรือคะแนนนั้นต้องอาศัยระยะเวลาในการสะสม หากคุณยังใช้รูปแบบเดิมๆ กิจกรรมนั้นก็จะไม่กระตุ้นความรู้สึก "พิเศษ" หรือ "ความต้องการ" ได้ และอาจกลายเป็นเรื่องปกติที่ทำกัน แม้แต่คุณเองก็ยังอาจลืมคิดไปว่าต้อนนี้กำลังทำโปรโมชันอยู่นะ...และกำลังเฉือนกำไรส่วนหนึ่งให้กับลูกค้าที่น่ารักของคุณอยู่
นึกถึงเป้าหมายทุกครั้ง
เพราะเป้าหมายให้การทำบัตรสะสมคะแนนก็เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและมีส่วมร่วมกับร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการดึงดูดลูกค้าคนสำคัญ อาจทำได้ทั้งการมอบสิทธิในการแลกซื้อสินค้า มอบของรางวัลในรูปแบบคูปอง หรือมอบสิทธิพิเศษในการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนลูกค้าคนอื่นๆ นอกเหนือไปจากการรอให้พวกเขาซื้อหรือสะสมคะแนนเท่านั้น
ง่ายๆ และต้องไม่ยาก
คุณต้องทำให้รู้สึกว่าการใช้บัตรสะสมคะแนนนั้นสะดวกและสามารถนำคะแนนที่ได้ไปแลกของรางวัลที่คุ้มค่า (คำนวณต้นทุนของรางวัลให้ดีนะครับ) รวมไปถึงการวางข้อแม้และเงื่อนไขการแลกของรางวัลต่างๆ พยายามอย่าให้มันเยอะ
ควรใช้บัตรที่มีคุณภาพ
คุณคงเคยเห็นบางร้านใช้บัตรสะสมคะแนนแบบกระดาษ เจาะบัตรให้เป็นรู ใช้ปากกาเขียนหรือใช้ตราประทับ นี่เป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกที่สุดที่ร้านค้าจะทำได้ แต่ในมุมของลูกค้าหรือถามตัวคุณเองก็ได้ว่า คุณมั่นใจที่จะพกบัตรนี้ไปไหนต่อไหนหรือไม่...ถ้าคุณไม่กล้าถือหรือไม่ภูมิใจที่จะถือล่ะ!!! ทุกอย่างที่คุณวางแผนไว้ก็จบด้วยเช่นกัน
คุณควรพิถีพิถันในการทำบัตรสักนิด ทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกภูมิใจที่ได้รับข้อเสนอจากร้านของคุณ เพราะอย่างน้อยที่สุด นี่ก็เป็นเหมือนกับเป็นการเผยแพร่แบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักได้อีกทางหนึ่ง
หมายเหตุ ผมพบว่ามีบางธุรกิจใช้วิธีรับฝากบัตรสะสมคะแนน (แปะไว้บนบอร์ดหรือบนผนัง) วิธีนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ เมื่อไม่กล้าพบก็ฝากเอาไว้ที่ร้านก็ได้ สิ่งที่ชวนคิดคือ บัตรสะสมคะแนนจะทำหน้าที่ดึงดูดหรือกระตุ้นเตือนลูกค้าได้อย่างไรหากฝากไว้ที่ร้าน ดังนั้น ในมุมมองของผู้เขียนควรให้ลูกค้าพกพาบัตรสะสมคะแนนติดตัวพวกเขาไปครับ
ทำไมหลายคนทำบัตรสะสมคะแนนแล้วไม่ปัง?
มีทั้งจริงและไม่จริงครับ เรื่องอย่างนี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง เพราะเป็นปัจจัยที่มาจากทั้ง 2 ฝั่งคือ
ผู้บริโภค
- เงื่อนไขของการสะสมคะแนนยากเกินไป
- ของรางวัลที่มอบให้ลูกค้าไม่จูงใจให้สะสม หรือดึงดูดความสนใจ
- ไม่ภูมิใจที่เป็นลูกค้า หรือไม่อยากพกพาบัตร
- ไม่อยากสะสมเพราะเพิ่งมาที่ร้านครั้งแรก แค่อยากทดลองใช้ก่อน
- ไม่อยากสะสมเพราะเคยทดลองแล้วก็ไม่ประทับใจในสินค้าหรือบริการ
ร้านค้า
- กำหนดระยะเวลาการสะสมคะแนนไม่เหมาะสม (ส่วนใหญ่จะไม่มีการกำหนดระยะเวลา)
- กำหนดของรางวัลไม่น่าดึงดูดหรือเร้าใจ
- สินค้าและบริการไม่เหมาะสม
- มีราคาสูงมากๆ เช่น ร้านอาหารหรูๆ สปาหรูๆ ความภักดีไม่ไม่มาจากการสะสมคะแนน
แต่ความภักดีเริ่มต้นจากคุณภาพของงานบริการ - ไม่สามารถใช้หรือซื้อซ้ำได้บ่อยๆ เช่น บ้านจัดสรร, คอนโด, รถยนต์
- เจ้าของธุรกิจไม่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด
- ขาดการบริหารจัดการ เก็บรวบรวมและประเมินผลให้เป็นรูปธรรม
สิ่งสำคัญที่คุณจะลืมไม่ได้คือการสะสมคะแนนเป็นหนึ่งของโปรแกรมสร้างความภักดี (Loyalty Program) เป็นสร้างสัมพันธ์ระหว่าง "คน" กับ "ธุรกิจ" หากทั้งเจ้าของ พนักงาน หุ้นส่วนของธุรกิจไม่มีใจพร้อมให้บริการและไม่มีสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพ "ทุกอย่างก็จบ"
ทางเลือกในการทำบัตรสะสมคะแนน
ทำบัตรกระดาษ หรือบัตรพลาสติก
- ข้อดี คือ ราคาประหยัด
- ข้อเสีย คือ ลูกค้าไม่ชอบพกหรือไม่กล้าพก หายหรือลืม และไม่ให้ความสำคัญ
สมัคร Line@ สร้างแอคเคานต์
- ข้อดี คือ สะดวก
- ข้อเสีย คือ ธุรกิจเป็นเพียงชื่อหนึ่งในแอปพลิเคชัน Line นั่นหมายความว่า คู่แข่งก็ทำได้เช่นกัน
- ความง่ายทำให้ลูกค้าไม่จดจำแบรนด์ เพียงเข้ามาเพราะอยากได้ส่วนลด
ทำโมบายแอปเป็นชื่อร้านค้าของคุณ
- ข้อดี คือ คุณจะได้โมบายที่เป็น Icon ในชื่อแบรนด์ของคุณ ลูกค้าเข้าใช้งานได้ง่าย โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
- ข้อเสีย คือ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ต้องใช้เวลาเรียนรู้ และมีราคาค่อนข้างสูง
ทำบัตรสะสมคะแนนแบบดิจิทัล
- ข้อดี คือ ช่วยดึงดูดคนเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ช่วยให้การสะสมแต้มพิเศษยิ่งขึ้น ทำเฉพาะลูกค้าต้วจริงเท่านั้น
- ข้อเสีย คือ มีขั้นตอนการใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นเทคโนโลยีใหม่ และต้องใช้เวลาเรียนรู้
หากคุณต้องการทำโปรแกรมความภักดีด้วยการทำบัตรสะสมคะแนน หากต้องการคำแนะนำใดๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาร้านค้าให้ทันสมัย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภายในร้านค้าของคุณ เราพร้อมและมีความสุขที่จะช่วย โทรหาเราได้ที่ 095-229-3655 เพื่อพูดคุย (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
www.gramdigital.net พวกเราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาร้านค้าให้พอดีกับทุกความต้องการของคุณ