5 ประโยชน์ของ Inbound Marketing

ทำไมการตลาดขาเข้าถึงจำเป็นกับธุรกิจ?

ประโยชน์ของ Inbound Marketing

หากคุณอยู่แวดวงการตลาดดิจิทัล คุณอาจเคยได้ยิน Inbound Marketing หรือ 'การตลาดขาเข้า' กันมาบ้างแล้ว นักการตลาดจำนวนมากให้ความสำคัญกับการตลาดขาเข้ากับกลยุทธ์ดิจิทัลของตน แม้ว่าจะเข้าใจพื้นฐานได้ง่าย แต่การตลาดขาเข้าอาจเป็นกระบวนการที่ยุ่งยาก แต่ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่า ซึ่งนอกจากช่วยแปลงผู้มุ่งหวังของคุณให้เปลี่ยนเป็นลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยังช่วยประหยัดงบประมาณการโฆษณาของคุณได้อีกด้วย

Inbound Marketing คืออะไร?

Inbound Marketing หรือ การตลาดขาเข้าเป็นวิธีการทางธุรกิจที่ดึงดูดลูกค้าด้วยการสร้างเนื้อหาและประสบการณ์อันมีค่าที่เหมาะกับพวกเขา ตรงข้ามกับการตลาดขาออก (Outbound Marketing) ที่มุ่งขัดขวาง ขัดจังหวะผู้ชมด้วยเนื้อหาที่พวกเขาไม่ได้ต้องการ แต่รูปแบบการตลาดขาเข้าจะสำรวจผู้บริโภคว่ากำลังมองหาอะไรและพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาที่พวกเขาประสบอยู่


เป็นการตลาดขาเข้าไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่มันเป็นคำที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในวงการตลาดมาเกือบทศวรรษ

พูดง่ายๆ คือ การตลาดขาเข้า หรือ Inbound Marketing เป็นวิธีขยายองค์กรของคุณโดยมุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายและยั่งยืนกับผู้บริโภค ผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า และลูกค้า เพื่อส่งมอบคุณค่าและส่งเสริมให้คนเหล่านั้นบรรลุเป้าหมายตลอดที่พวกเขาเดินทางร่วมกับธุรกิจของคุณ

 

Inbound Marketing Methodology

คุณต้องไม่ลือว่าระบบอินเทอร์เน็ตและเครื่องมือค้นหาอัจฉริยะทั้ง Google, Bing ช่วยให้ผู้บริโภควันนี้ค้นหาทุกอย่างที่ต้องการ (ข้อมูลสินค้า, บริการ หรือเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ) ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับการเติบโตของโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ทำให้การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เติบโตมากยิ่งขึ้น


ส่วนหนึ่งนั้นมาจากที่ความเป็นปัจเจกชนได้รับการเติมเต็มได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้นการเชื่อมโยงด้วยคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นจึงมีส่วนสำคัญมากขึ้นกับการทำธุรกิจออนไลน์ การตอบสนองเป็นรายบุคคลถูกพูดถึงและทิศทางที่ธุรกิจสมัยใหม่ต้องการไปให้ถึง จึงไม่เกินไปนักที่จะบอกว่าการตลาดขาเข้าเป็นวิธีที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการและตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริง

องค์ประกอบของการตลาดขาเข้า

การตลาดขาเข้า (Inbound Marketing) ผสมผสานองค์ประกอบวิธีการทำการตลาดออนไลน์หลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน อาทิ Search Engine Optimization (SEO), เขียนบล็อก, การตลาดทางโซเชียลมีเดีย และการตลาดทางอีเมล เป็นต้น มุ่งเน้นการโน้มน้าวผู้ชม ผู้สนใจ ด้วย "โซลูชัน" ที่ธุรกิจของคุณเชี่ยวชาญ เป็นประโยชน์ และพัฒนาเนื้อหาให้สอดคล้องกับเส้นทางการตัดสินใจของผู้บริโภค

 

ซึ่งแนวทางนี้ต่างจาก การตลาดขาออก (Outbound Marketing or Interruption Marketing) หรือการตลาดแบบขัดจังหวะ มุ่งเน้นการที่ส่งข้อความถึงคนจำนวนมากเพื่อมุ่งให้เกิดการขาย อาทิ การโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ / ทีวี / วิทยุ การโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการใช้อินฟลูเอนเซอร์ และวิธีการอื่นๆ เพื่อส่งข้อความไปยังผู้ชมจำนวนมาก (ซึ่งอาจไม่ได้มองหาผลิตภัณฑ์ของคุณ) เป็นการสนทนาแบบทางเดียว ซึ่งมีเนื้อหาทั่วไปที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์และเหตุผลที่ผู้ชมควรซื้อ

 

Randnor Fishkin ได้เผยแพร่แผนภาพที่ช่วยให้คุณเข้าใจองค์ประกอบของการตลาดขาเข้าได้มากยิ่งขึ้น

 

*การใช้ Influencer เพื่อรีวิวสินค้า ถ้าไม่ได้จ้างหรือเสียเงินถือว่าเป็น Inbound Marketing

 

main components of inbound marketing

ประโยชน์ของการตลาดขาเข้า

การตลาดขาเข้า (Inbound Marketing) ใช้เทคนิคเพื่อเข้าถึงลูกค้าของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่ใช้วิธีการทำลายล้าง (ไม่ทุ่มเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณา) แต่ก่อนที่คุณจะทำตามแนวทางนี้ มาดูประโยชน์ของธุรกิจของคุณจะได้รับกันก่อน

 

1. ความคุ้มค่า

เมื่อพูดถึงเรื่องธุรกิจและผลประโยชน์ สิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึงก็คือ "ค่าใช้จ่าย" การตลาดแบบดึงดูดสามารถสร้างโอกาสในการขายให้กับบริษัท (ทุกขนาด) ในลักษณะที่ถูกกว่าการตลาดขาออก


จากกราฟด้านล่าง ธุรกิจทุกขนาดสามารถสร้างโอกาสในการขายจากการทำการตลาดขาเข้า (Inbound Marketing) โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่พวกเขาได้รับจากการตลาดแบบขาเข้า หรือการตลาดขาออก (Outbound Marketing)

Inbound cost per Lead

นี่คือสิ่งที่สำคัญมากกับธุรกิจที่มีงบประมาณน้อย และต้องการใช้เงินทุกๆ บาทที่ใช้จ่ายเพื่อให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

2. การคงอยู่ของสื่อที่ยาวนาน

โปรดเข้าใจว่า เป้าหมายของการตลาดขาเข้า คือ การเชื่อมโยงกับลูกค้าของคุณ ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่การติดต่อกันแค่ครั้งเดียว แต่เป็นการสร้างความไว้วางใจจากการติดต่อ อย่างต่อเนื่อง และผูกพันกันอย่างยาวนาน

 

ลองนึกถึงการเขียนบล็อก และการทำ SEO ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นิยมมากที่สุดสำหรับการตลาดแบบดึงดูด (Inbound Marketing)

 

เมื่อคุณเขียนบล็อกอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับมีการทำ SEO ที่ดี ตอนเริ่มต้นอาจจะเข้าถึงลูกค้าได้ไม่กี่คน (เนื่องจาก SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในการทำงาน) แต่หลังนั้นไม่กี่เดือน อันดับของคุณจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น และเพิ่มจำนวนการเข้าชมขึ้นทีละน้อยต่อเนื่องในระยะยาว

 

สำหรับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เมื่อคุณมีสถานะที่แข็งแกร่งบน Facebook มีแฟนนับพันๆ คนในหน้าธุรกิจของคุณ คุณจะสามารถติดต่อผู้ชมของคุณ (หรือบางส่วน) ทุกครั้งที่คุณอัปเดทหน้า Facebook ของคุณ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

(แต่วันนี้หากคุณต้องการเข้าถึงพวกเขาแบบไม่จ่ายค่าโฆษณา คุณต้องสร้าง Group แทนที่หน้า Fan Page เพราะจะให้ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่ามาก)

 

3. การเข้าถึงตลาดและผู้ชมใหม่ๆ

เป็นเรื่องจริงที่ว่าการตลาดขาเข้าเป็นการดำเนินงานทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ รวมทั้งการเผยแพร่แคมเปญต่างๆ ของคุณได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

 

ยกตัวอย่าง สมมุติว่าคุณให้บริการทำ SEO ทางออนไลน์ และตัดสินใจเพิ่มบริการ 'Social Media' ในรายการสินค้าของคุณ

 

การตลาดแบบดั้งเดิม หากมีกลุ่มเป้าหมายที่มีโปรไฟล์เหมือนกัน (ในกรณีใช้โฆษณาทีวี วิทยุ หรือวิธีการแบบเดิมๆ) คุณจะไม่สามารถแบ่งกลุ่มและกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ หรือนำเสนอบริการให้กับผู้ต้องการที่แตกต่างกันได้

 

สำหรับการตลาดขาเข้า การทำ PPC จะช่วยคุณดึงดูดเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาบริการ 'Social Media' โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะคำหลักเหล่านั้นในแคมเปญ PPC ของคุณ

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างง่ายๆ ซึ่งหากคุณสามารถกำหนดรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ คุณมีโอกาสที่จะได้รับผลลัพธ์ ROI ที่สูงกว่า ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าการตลาดขาออก (Outbound Marketing) 


เพราะคุณไม่จำเป็นต้องสื่อสารเพื่อติดต่อกับกลุ่มคนจำนวนมาก โดยหวังว่าจะมีบางคนที่ได้รับเนื้อหาผ่านสื่อจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณ

 

4. ตอบสนองในทันที

เมื่อมีคนค้นหาสินค้าทางอินเทอร์เน็ต หรือหาวิธีแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง เมื่อพวกเขาค้นพบเว็บไซต์ของคุณจากการค้นหาบน Google หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาของคุณ เมื่อพวกเขาได้รับทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ก็นับว่าพวกเขาไว้วางใจเว็บไซต์ของคุณ รู้สึกปลอดภัย และมั่นใจที่จะติดต่อเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณได้ในอนาคต

 

นี่เป็นสถานการณ์ที่จำลองขึ้นกับการตลาดขาเข้า และแน่นอนว่ามันจะไม่ได้เป็นกระบวนการแบบนี้เสมอไป

 

ซึ่งต่างจากการตลาดขาออก (Outbound Marketing) เพราะมีขั้นตอน กระบวนการที่ซับซ้อนและช้ากว่า

 

ยกตัวอย่าง  เมื่อคุณได้ฟังโฆษณาสินค้าตอนขับรถและรู้สึกสนใจ เมื่อกลับถึงบ้าน (ยังจดจำโฆษณาได้) คุณก็เข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาสินค้าในโฆษณา จากนั้นก็ดำเนินการตามเส้นทางการตลาดแบบดึงดูด (ตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น) แต่ก็ยังไม่สามารถซื้อได้เพราะนั่นอาจยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ (ซึ่งแตกต่างจากการที่พวกเขาค้นหาเองบน Google)

 

5. เพิ่มความเชื่อถือและการรับรู้แบรนด์

จากประโยชน์ที่อธิบายข้างต้นส่วนใหญ่คือ ประโยชน์ที่ได้รับกับต้นทุนและยอดขาย แต่ในความเป็นจริง เป้าหมายการทำตลาดของบริษัทไม่ได้จำกัดแค่เพียงอย่างเดียว

 

กรณีที่คุณต้องการสร้างแบรนด์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบริษัทของคุณ หรือเปลี่ยนการรับรู้ผู้คนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ การตลาดแบบดึงดูดเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสามารถแพร่กระจายเนื้อหา และสร้างแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักได้ ในขณะเดียวกัน การทำเช่นนี้จะนำไปสู่การขายที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคต

 

คุณสามารถผสมผสาน การโพสต์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย, เขียนบล็อกที่มีคุณภาพ, สไลด์โชว์, infographics และ PPC, SEO (เพื่อตั้งชื่อเครื่องมือบางอย่าง) เพื่อให้แบรนด์ของคุณปรากฏต่อลูกค้านับพันๆ ราย โดยให้ความรู้แก่พวกเขาเกี่ยวกับบริษัทของคุณโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกว่าคุณกำลังพยายามสร้าง 'ภาพลักษณ์' ที่เกี่ยวกับบริษัทของคุณอยู่

 

บทสรุป

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ตราบใด้ที่คุณมี "สถานะออนไลน์" หรือพยายามเพิ่มจำนวนเข้าการชม หรือสร้างโอกาสในการขายใหม่ๆ ก็ถือได้ว่าคุณได้ดำเนินงานส่วนหนึ่งของกระบวนการทางการตลาดแบบดึงดูดแล้วครับ


การตลาดขาเข้า (Inbound Marketing) อาจดูเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับการตลาดขาออก (Outbound Marketing) แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นแผนการตลาดที่ง่ายเหมือนกับที่อธิบายไปนะครับ หรือทุกคนที่อ่านบทความแล้วทำได้ 

 

นี่เป็นกิจกรรมการตลาดที่คุณต้องใช้เวลา ใช้งบประมาณ ฝึกฝน ทดลอง และพยายามทำความเข้าใจวิธีการที่ทำให้ลูกค้าของคุณตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุดกระบวนการ

แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นการทำงานอย่างต่อเนื่อง คุณจึงต้องการระเบียบวินัยในการทำงานมากๆ เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานได้แม้ว่าจะมีวิวัฒนาการ หรือเทคโนโลยีใหม่ใดๆ ธุรกิจของคุณก็พร้อมเชื่อมต่อและปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดภายใต้ธุรกิจในยุคดดิจิทัลที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

 

อัปเดตแนวทางการพัฒนาการสื่อสารทางการตลาดในยุคดิจิทัลก่อนใคร!

สนใจรับข่าวสาร

ลงทะเบียนเพื่อรับจดหมายข่าว

เนื้อหาที่น่าสนใจ

ประโยชน์ 4 ข้อ จากการทำแอปพลิเคชันบนมือถือให้กับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ
By Gram Digital Publishing Team October 10, 2025
ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจด้วยโมบายแอป! เปิดเผย 4 ข้อดีสำคัญที่จะช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมของลูกค้า สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคุณ
หากคุณเป็น SME ที่ยังลังเลที่ว่าจะทำโมบายแอปเป็นของตนเอง เรามีคำตอบให้กับคุณ
November 1, 2021
อยากให้ธุรกิจ SME เติบโตอย่างก้าวกระโดดไหม? การมีโมบายแอปเป็นของตัวเองคือคำตอบ! เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า สร้างแบรนด์ที่น่าจดจำ และเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดออนไลน์
Progressive Web Apps อนาคตของโมบายแอป
By Gram Digital Publishing team April 16, 2020
Progressive Web Apps (PWAs) หรือ โพรเกรสซีฟ เว็บแอป เข้ามาช่วยให้การผลิตโมบายแอปเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์พกพาทำได้สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนได้หลายเท่า PWA จึงเป็นเหมือนอนาคตของการทำโมบายแอป
โมบายแอปพร้อมใช้ ทุกธุรกิจก็มีได้
By Gram Digital Publishing Team April 1, 2018
ถ้าคุณคิดว่า "โมบายแอปพลิเคชัน" เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น คุณกำลังพลาดโอกาสสำคัญ เพราะ "โมบายแอปพร้อมใช้" ช่วยให้การสร้างโมบายแอปในวันนี้กลายเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และประหยัด ช่วยให้คุณสามารถดูแลลูกค้าได้ดีไม่แพ้ธุรกิจขนาดใหญ่

สนใจโซลูชันพร้อมใช้จากพาร์ทเนอร์ของเราใช่ไหม?

แกรมดิจิทัลและพันธมิตรยินดีช่วยเหลือคุณเต็มความสามารถ กรุณาบอกความต้องการที่ชัดเจนของคุณเพื่อนำไปประกอบการจัดหาโซลูชันที่เหมาะสม ตรงกับต้องการของคุณมากที่สุด